คำว่า "เทคโนโลยี”(Technology) มาจากรากศัพท์ "Technic" หรือ "Techno" ซึ่งมีความหมายว่า วิธีการ หรือการจัดแจงอย่างเป็นระบบ รวมกับ "logy" ซึ่งแปลว่า “ศาสตร์” หรือ “วิทยาการ” ดังนั้น คำว่า "เทคโนโลยี" ตามรากศัพท์จึงหมายถึง ศาสตร์ว่าด้วยวิธีการหรือศาสตร์ที่ว่าด้วยการจัดการ หรือการจัดแจงสิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดระบบใหม่และเป็นระบบที่สามารถนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์หรือเจตนารมณ์ที่ตั้งใจไว้ได้ ซึ่งก็มีความหมายตรงกับความหมายที่ปรากฏในพจนานุกรม คือ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ ดังนั้น เทคโนโลยีการศึกษาจึงเป็นการจัดแจงหรือการประยุกต์หลักการทางวิทยาศาสตร์กายภาพมาใช้ในกระบวนการของการศึกษา โดยสรุป เทคโนโลยีการศึกษาหมายความถึงการนำเอา วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการต่างๆมาใช้อย่างเป็นระบบเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการศึกษา การพัฒนาการการศึกษาที่ถือว่าเป็นเทคโนโลยีการศึกษาในอดีต เราสามารถแบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลา ตั้งแต่ยุคเริ่มแรกจนถึงปี ค.ศ.1700 พัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา ค.ศ.1700-1900 (พ.ศ.2243-พ.ศ.2443) ก่อนปี ค.ศ.1800 เทคโนโลยีการศึกษา ค.ศ.1900-ปัจจุบัน (พ.ศ.2443-ปัจจุบัน) พัฒนาการเทคโนโลยีการศึกษาในประเทศไทย นโยบายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการศึกษาของประเทศไทย ความสำคัญและบทบาทของเทคโนโลยีการศึกษา ประโยชน์ของเทคโนโลยีการศึกษาอีกด้วย
บรรณานุกรม
กิดานันท์ มลิทอง.(2548).เทคโนโลยีและการสื่อสารเพื่อการศึกษา : คณะครุศาสตร์.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รัฐกรณ์ คิดการ.(2543). เทคโนโลยีการศึกษา : คณะครุศาสตร์.สถาบันราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
สมิตา บุญวาศ.(2546). เทคโนโลยีการศึกษา : คณะครุศาสตร์.สถาบันราชภัฏธนบุรีwww.nmc.ac.th/database/file_science/unit1.doc
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น